พันธกิจของแผนการฝึกอบรม

          เนื่องจากโรคและปัญหาทางออร์โธปิดิกส์ รวมถึงภาวการณ์บาดเจ็บกระดูกหักในประเทศไทย มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีความซับซ้อน กับในปัจจุบันปัญหาสุขภาพในนระดับชาติเชื่อมโยงกับสังคมผู้สูงอายุ ภาควิชาออร์โธปิดิกส์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงมีพันธกิจในการผลิตแพทย์ออร์โธปิดิกส์ที่มีครอบคลุมความรู้ ทักษะ ความสามารถในเวชปฏิบัติ และสมรรถนะในการรักษาผู้ป่วยทั้งแบบอนุรักษ์และการผ่าตัด รวมถึงการรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะฉุกเฉิน ภาวะเร่งด่วนและภาวะแทรกซ้อนทางออร์โธปิดิกส์ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ป่วย สังคมและปัญหาสุขภาพในระดับชาติ มีความรับผิดชอบ มีความสามารถทำงานตามหลักพฤตินิสัยและมารยาททางวิชาชีพ มีความสามารถทำงานแบบมืออาชีพ สามารถปฏิบัติงานแบบสหวิชาชีพหรือเป็นทีม สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ มีความเอื้ออาทรและความใส่ใจความปลอดภัย โดยยึดถือผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางบนพื้นฐานการดูแลแบบองค์รวม มีความสามารถในการปฏิบัติงานโดยไม่ต้องมีการกำกับดูแล มีเจตนารมณ์และเตรียมพร้อมที่จะเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต สามารถทำวิจัยอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาการรักษาและทันสมัยมากขึ้น และสามารถชี้นำสังคมในการป้องกัน ส่งเสริมสุขภาพ รักษาโรคและการบาดเจ็บ ใช้ทรัพยากรสุขภาพอย่างเหมาะสมกับเศรษฐานะของประเทศ มีพฤติกรรมที่เหมาะสมและให้เกียรติต่อเพื่อนร่วมงานทั้งในวิชาชีพของตนเองและวิชาชีพอื่นๆ รวมทั้งผู้ป่วยและญาติ

 

 หลักสูตร 2565

 

ผลสัมฤทธิ์ของแผนงานฝึกอบรม

แพทย์ออร์โธปิดิกส์ที่จบการฝึกอบรม ต้องมีคุณสมบัติและความรู้ความสามารถขั้นต่ำตามสมรรถนะหลักทั้ง ๖ ด้านดังนี้

          1. การบริบาลผู้ป่วย (Patient care)

                    1.1 บริบาลโดยใช้ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางบนพื้นฐานของการดูแแลแบบองค์รวม

                    1.2 คำนึงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย

                    1.3 ปฏิบัติงานได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องมีการกำกับดูแล

           2. ความรู้และทักษะหัตถการเวชกรรม (Medical Knowledge and Procedural Skills)

                    2.1 มีความรู้ที่เหมาะสมและครอบคลุมในสาขาออร์โธิปิดิกส์

                    2.2 มีทักษะการทำหัตถการที่เหมาะสมครอบคลุมในสาขาออร์โธิปิดิกส์

                    2.3 ประกอบเวชปฏิบัติได้อย่างครอบคลุมและเหมาะสม

            3.ทักษะระหว่างบุคคลและการสื่อสาร (Interpersonal and Communication Skills)

                    3.1 นำเสนอข้อมูลผู้ป่วย และอภิปรายปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ

                    3.2 ถ่ายทอดความรู้และทักษะ รวมถึงเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำแก่แพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์

                    3.3 มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี ทำงานกับผู้ร่วมงานทุกระดับได้อย่างมีประสิทธิภาพ

             4.การเรียนรู้และการพัฒนาจากฐานการปฏิบัติ (Practice-based Learning and Improvement)

                    4.1 พัฒนาตนเองและเรียนรู้จากการปฏิบัติ

                    4.2 ปฏิบัติงานเป็นทีมหรือแบบสหวิชาชีพได้

                    4.3 ดำเนินการวิจัยทางการแพทย์สาธารณสุขหรือการศึกษาแพทยศาสตร์ และเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ

               5. ความสามารถในการทำงานตามหลักวิชาชีพนิยม

                    5.1 มรจริยธรรมและมารยาทแห่งวิชาชีพ

                    5.2 มีคุณลักษณะของความเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต (Continuing Medical Education)

                    5.3 มีการพัฒนาวิชาชีพต่อเนื่อง (Continuous Professional Development)

             6.การทำเวชปฏิบัติให้สอดคล้องกับระบบสุขภาพ (System-based Practice)

                    6.1 มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบสุขภาพของประเทศ

                    6.2 มีความรู้และมีส่วนร่วมในระบบพัฒนาคุณภาพการดูแลรักษาผู้ป่วย

                    6.3 มีประสบการณ์ในการใชทรัพยากรสุขภาพอย่างเหมาะสม และสามารถปรับการดูแลรักษาผู้ป่วยให้เข้ากับบริบทของระบบ สาธารณสุขตามมาตรฐานวิชาชีพ

  1.